ตั้งแต่เดือนธันวาคมเมื่อปีก่อนจนกระทั่งวันนี้ก็ผ่านไปเกือบครึ่งปีแล้วที่คงไม่มีใครคาดคิดว่า จากตัวเลขผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรน่าหรือ COVID-19 ในประเทศจีนประมาณ 80,000 คน จะแพร่ระบาดไปทั่วทั้งโลก จนในปัจจุบันมีจำนวนผู้ติดเชื้อถึง 1.4 ล้านคน และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะ ในประเทศสหรัฐอเมริกา สเปน อิตาลีและประเทศอื่นๆ ทั่วโลก
กราฟ: แสดงจำนวนผู้ติดเชื้อ COVID-19 ทั่วโลก (ข้อมูล ณ วันที่ 9 เมษายน 2563)
ที่มา: World Health Organization
ในระยะแรกที่มีการปิดเมืองอู่ฮั่นและระงับการเดินทางเข้า-ออกประเทศจีนเพื่อจำกัดวงของการแพร่ระบาดของโรคนั้น ผลกระทบยังจำกัดอยู่แค่เฉพาะอุตสาหกรรมและธุรกิจที่มีความเกี่ยวข้องกับประเทศจีนเป็นหลัก แต่เมื่อเกิดการแพร่ระบาดไปยังประเทศต่างๆ ทวีความรุนแรงขึ้น ทำให้เกิดผลกระทบ ในวงกว้างต่อทั้งวิถีชีวิต ความปลอดภัยต่อสุขภาพ รายได้ การจ้างงาน การเลิกกิจการหรือธุรกิจ รวมถึง
"การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ
ของทุกอุตสาหกรรมที่ถดถอยลงทั่วโลก"
ภาพ: สนามบินนานาชาติดอนเมืองในสถานการณ์ COVID-19
ที่มา : เพจเฟซบุ๊ก Outsider's aviation
อุตสาหกรรมการบินเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่ได้รับผลกระทบอย่างมาก ย้อนกลับไปในระยะแรกที่ไวรัสเริ่มแพร่ระบาดไปสู่ประเทศต่างๆ หลายๆ ประเทศได้เริ่มจำกัดจำนวนเที่ยวบินจากประเทศจีนและประเทศกลุ่มเสี่ยง มีการกำหนดมาตรการในการคัดกรองผู้โดยสาร การกักกันตัวเมื่อเดินทางเข้าประเทศ การยกเลิกตรวจลงตรา (Visa) บางประเภท เช่น วีซ่านักท่องเที่ยว และจำกัดการเดินทางให้เฉพาะพลเมืองของประเทศตนเองเข้าประเทศเท่านั้น
วีดีโอ: แสดงการคาดการณ์มูลค่าความเสียหายในอุตสาหกรรมการบิน จากสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA)
ที่มา: https://twitter.com/iata
ซึ่งปัจจัยข้างต้นทั้งหมดนี้ส่งผลให้เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมาตัวเลขสถิติการขนส่งทางอากาศในสนามบินใหญ่ทั่วโลกลดลงอย่างมาก หากเปรียบเทียบกับตัวเลขในวันเดียวกันเมื่อปีก่อน ตัวอย่างเช่น สนามบิน Atlanta (ATL) Beijing (PEK) Chicago (ORD) London (LHR) Hong Kong (HKG) Paris (CDG) มีจำนวนเที่ยวบินลดลงกว่า 1,000 เที่ยวบินต่อวัน หรือกว่า 30,000 เที่ยวบินต่อเดือน และหากนับเฉพาะการเดินทางในกลุ่มธุรกิจการท่องเที่ยวมี
"จำนวนเที่ยวบินลดลงกว่า 63% เทียบกับปีก่อน"
การเดินทางที่ลดลงส่งผลกระทบโดยตรงต่อรายได้ของธุรกิจต่างๆในอุตสาหกรรมการบิน ซึ่งสายการบินก็เป็นหนึ่งในธุรกิจที่ได้รับผลกระทบโดยตรงและรุนแรงที่สุด หลายๆ สายการบินทั่วโลกจำนวนมากต้องยกเลิกเที่ยวบินและหยุดทำการบิน หลายสายการบินมีความเสี่ยงในการขาดทุนและล้มละลาย หลายๆ คนถูกพักงาน จ้างออก ขาดรายได้ในการดำรงชีวิต ภาพเครื่องบินหลายๆ สายการบินคละสีกัน ที่จอดเรียงรายอยู่ในหลุมจอดที่สนามบิน บางลำล้นออกมาจอดบนทางขับข้างเคียง ภาพอาคาร ผู้โดยสารที่ว่างเปล่า มีเพียงแสงไฟสลัวๆ ที่ส่องแสงภายในอาคาร ลานจอดรถและถนนหน้าอาคารที่ว่างเปล่าเป็นภาพที่ไม่คุ้นตาและไม่ได้เกิดขึ้นมานานแล้ว
แต่สิ่งดีดีที่เราได้เห็นและเรียนรู้จากสถานการณ์โรคระบาดครั้งนี้คือ มนุษย์มีศักยภาพสูงในการปรับตัวและดำรงชีพเมื่อต้องถูกจำกัดให้กักตัว มีการเปลี่ยนรูปแบบการทำงานเป็น Work from home ดำเนินชีวิตในสังคมด้วยการทำ Social Distancing ปัจจัยเหล่านี้เป็นตัวเร่ง (แกมบังคับ) ให้มนุษย์ยอมรับการเปลี่ยนแปลงใหม่ๆ
Digital Disruption หากกล่าวสั้นๆ คือ การที่เทคโนโลยีสมัยใหม่ส่งผลให้ธุรกิจของเราหยุดชะงัก ไม่เติบโตอย่างที่ควรเป็น และยิ่งถ้าหากเราไม่ปรับตัวและพัฒนาให้ทันต่อเทคโนโลยีหรือนวัตกรรมใหม่ๆ เหล่านี้ สุดท้ายแล้วเราก็จะกลายเป็นผู้ที่เดินตาม ถูกแซงจนรั้งอยู่หางแถว และล้มหายตายจากจากธุรกิจของเราไปในที่สุด
การทำงานเอกสารร่วมกันใน Google Doc การประชุมและระดมสมองผ่าน Slack หรือ Microsoft Team การพูดคุยสนทนากันผ่าน Zoom หรือ Skype การสั่งอาหารผ่าน Grab / Food Panda / Get / 7-11 Delivery หรือ Line Man (ไม่เกี่ยวกับการทำงานโดยตรง แต่กองทัพก็ต้องเดินด้วยท้อง) กลายเป็นเรื่องธรรมดา ที่ทุกคนจำเป็นต้องปรับตัวเข้าหาเทคโนโลยี
ในด้านการศึกษาก็เริ่มมีการนำ e-Learning มาใช้ในการเรียนการสอนของโรงเรียนและมหาวิทยาลัย การเรียนรู้ผ่าน Platform Online ต่างๆ เริ่มมีจำนวนผู้เข้าชมมากขึ้นและได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ มหาวิทยาลัยมีการพัฒนา Learning Platform เพื่อใช้เป็นพื้นที่เสมือนจริงสำหรับให้อาจารย์ทำการเรียนการสอน พูดคุยถามตอบกับนักเรียน ตรวจการบ้าน ทำข้อสอบ เป็นพื้นที่ทดแทนอาคารและห้องเรียนรูปแบบเดิม
ปัจจุบันก็ผ่านมาเกือบครึ่งปีแล้ว นับตั้งแต่ที่มีการระบาดครั้งแรกที่ประเทศจีน ซึ่งประเทศไทยก็เป็นหนึ่งในประเทศแรกๆ ของโลกที่มีผู้ติดเชื้อไวรัสนี้และคาดการณ์ว่าจะได้รับผลกระทบอย่างหนัก แต่ปัจจุบันก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วด้วยความสามารถของบุคลากรทางการแพทย์ การช่วยระมัดระวังกันของคนในสังคม การยอมลดความสะดวกสบายลงเพื่อผลประโยชน์ส่วนรวม ทำให้ประเทศไทยยังมีตัวเลขผู้ติดเชื้ออยู่ในระดับต่ำ แม้จะยังไม่สร้างความมั่นใจให้คนในสังคม แต่ก็ยังโชคดีกว่าหลายๆ ประเทศที่เกิดการระบาดจนไม่สามารถควบคุมได้และมีสถานการณ์ที่ยากลำบากกว่าประเทศของเรามากนัก
ภาพ: การทำงานของคณะแพทย์ในสถานการณ์ COVID-19 ในประเทศอิตาลี
ที่มา: bangkokbiznews
หลายประเทศในยุโรปที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อหลักหมื่นหลักแสนคนยังถือว่าไม่ได้อยู่ในจุดวิกฤต เนื่องจากยังไม่ขึ้นถึงยอดสูงสุดของกราฟ แต่มีแนวโน้มที่จะรุนแรงกว่านี้ยิ่งขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่ประเทศไทยเองแม้ว่าจะมีจำนวนผู้ติดเชื้อหลัก 2,000 กว่าคน แต่ภายหลังจากที่ประกาศ พรก.ฉุกเฉินและเคอร์ฟิวก็มีจำนวน ผู้ติดเชื้อต่อวันลดลง หากแต่ตัวเลขเหล่านี้ไม่ได้บ่งบอกว่าประเทศเราดีขึ้น หากเทียบกับประเทศข้างเคียงในกลุ่ม CLMV และกลุ่ม Asean ด้วยกัน ประเทศไทยเรานั้นมีจำนวนการส่งตรวจหาเชื้อในผู้ป่วยที่เข้าเกณฑ์สอบสวนโรค (PUI) ประมาณ 25,000 คน ซึ่งน้อยกว่าหลายๆ ประเทศในภูมิภาคนี้ ประกอบกับปัจจุบันมีหลายๆ งานวิจัยที่ยืนยันว่า กว่า 25% ของผู้ติดเชื้อเป็นพาหะ คือไม่แสดงอาการเนื่องจากร่างกายสามารถสร้างภูมิต้านทานโรคขึ้นมาได้ ทำให้บุคคลนั้นไม่แสดงอาการป่วยแต่สามารถแพร่กระจายเชื้อโรคสู่ผู้อื่นได้
ภาพ: รณรงค์การเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) เพื่อป้องกัน COVID-19
ท่ีมา: สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)
สุดท้ายนี้ ขอให้กำลังใจเพื่อนๆ ทุกคนให้เข้มแข็ง สู้ต่อไปภายใต้สถานการณ์ที่กดดันนี้ การต้องเว้นระยะกัน อยู่ห่างจากเพื่อนฝูงและครอบครัวไม่ได้แปลว่าเราจะอยู่ไกลกัน การพูดคุยกันให้กำลังใจกันจะช่วยให้เราสามารถฟันฝ่าวิกฤตครั้งนี้ได้ การแพร่ระบาดของโรคยังคงดำเนินต่อไปและอาจไม่ได้จบลงเร็วๆ นี้
และถึงแม้ว่าปัญหา COVID-19 จะสร้างผลกระทบอย่างรุนแรงต่ออุตสาหกรรมการบิน แต่เมื่อวิกฤตนี้ผ่านไป ผู้คนทั่วโลกจำเป็นต้องเดินทาง ทำธุรกิจ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้ก้าวหน้าร่วมกัน ถึงวันนั้นธุรกิจการบินทุกหน่วยงานจำเป็นต้องพร้อมให้บริการ
สถาบันการบินฯ อย่าง DAA พร้อมเปิดอบรมหลักสูตรการบินเพื่อพัฒนาทักษะในทุกๆ ด้านให้บุคลากรด้านการบินทุกระดับ ทั้งการ Reskill, Upskill และ Recurrent
เชื่อว่าอีกไม่นานธุรกิจการบินจะต้องกลับมาเข้มแข็งได้อีกครั้ง...
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
📱 Line : @daa_dpu
✍🏼 E-mail : daa@dpu.ac.th
☎️ Tel. 061-863-7991
Website: daa.dpu.ac.th
สำรองที่นั่งคอร์สฝึกอบรม >> https://bit.ly/3aPelIT
Comments